SHARES
โรงงานอุตสาหกรรม ถือเป็นสถานที่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากที่สุด เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ไฟฟ้าโรงงานควรเลือกให้เหมาะสม โดยสามารถคลิกอ่าน ระบบไฟฟ้า 1 เฟส และระบบไฟฟ้า 3 เฟส นอกจากนี้ยังจำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าโรงงานอยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงและลดโอกาสการเกิดอันตรายจากระบบไฟฟ้า
ไฟฟ้าโรงงานกับระบบไฟฟ้า 3 เฟส
ไฟฟ้าโรงงานจะนิยมเลือกใช้ระบบไฟฟ้า 3 เฟส โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า ที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นระบบทำความเย็น ระบบทำความร้อน ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ต้องอาศัยกำลังไฟฟ้าแรงสูง จึงเหมาะแก่การใช้เป็นไฟฟ้าโรงงานมากที่สุดนั่นเอง
เนื่องจากไฟฟ้าโรงงานมีความต้องการในการใช้ไฟมากกว่าในครัวเรือนหลายเท่า ดังนั้นการตรวจสอบระบบไฟฟ้าโรงงานจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายแล้ว ทางกระทรวงอุตสาหกรรมและกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้กำหนดให้แต่ละโรงงานต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในโรงงาน
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าโรงงาน สามารถตรวจสอบได้ 2 แบบ ดังนี้
นอกจากการตรวจสอบทั้ง 2 รูปแบบนี้แล้ว ยังสามารถแบ่งออกเป็นอีก 2 ส่วน คือ การตรวจสอบสภาพทั่วไป และการตรวจสอบตัวอุปกรณ์ไฟฟ้า
การตรวจแบบทั่วไปแม้จะง่ายแต่ยังต้องอาศัยความรู้ว่าแบบไหนจะเป็นอันตรายจากไฟฟ้าของผู้ทำการตรวจสอบ โดยการตรวจในขั้นตอนนี้ ประกอบด้วย
การตรวจสอบในขั้นตอนนี้มีความสำคัญอย่างมากที่จะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้ตรวจสอบ เพราะต้องตรวจเพื่อหาจุดเสื่อมสภาพหรือความผิดปกติต่าง ๆ มีการจดบันทึกผลการตรวจ ผ่านการวิเคราะห์ผล หาวิธีแก้ไข และที่สำคัญที่สุดคือ อุปกรณ์บางตัวต้องตรวจขณะที่จ่ายไฟอยู่ บางตัวต้องหยุดการจ่ายไฟเพื่อตรวจสอบ ซึ่งอุปกรณ์ที่ต้องตรวจสอบนั้นมีดังนี้
โดยการตรวจสอบระบบไฟฟ้าโรงงานเหล่านี้จะต้องตรวจปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการใช้งานด้วย ซึ่งจะต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน อาทิ การกัดกร่อนของบรรยากาศ สิ่งสกปรกและฝุ่นละออง อุณหภูมิโดยรอบและความชื้น ความถี่ในการทำงาน รวมไปถึงความถี่ในการตัดกระแสลัดวงจร (กรณีเซอร์กิตเบรกเกอร์)
ควรปรับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสม หากแรงดันต่ำเกินไปการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าจะได้ประสิทธิภาพลดลง ส่วนการใช้กระแสไฟถ้าไม่คงที่ก็จะส่งผลให้อัตราการใช้ไฟนั้นมากเกินจำเป็น และที่สำคัญควรมีแรงดันไฟฟ้าตก (Voltage drop) ไม่เกิน 3%
ควรเลือกใช้หลอดไฟที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง เช่น หลอดไฟ LED, หลอดโซเดียมความดันสูง ถ้าเป็นโคมไฟควรเลือกผิวสะท้อนแสงดี เพราะจะช่วยเพิ่มความสว่างถึง 30% และควรทำความสะอาดอุปกรณ์อย่างน้อยปีละ 1 – 2 ครั้ง
ดูแลจุดเชื่อมต่อทางไฟฟ้าให้แน่นและทำความสะอาดอย่างน้อย 1 – 2 ครั้งต่อปี ป้องกันอันตรายจากจุดเชื่อมไฟฟ้าที่หลวม และป้องกันสิ่งสกปรกที่ทำให้การนำกระแสไฟฟ้าไม่สะดวก
ควรใช้มอเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน และมีประสิทธิภาพสูง ระบายความร้อนได้ดี และอย่าลืมเลือกพื้นที่ติดตั้งมอเตอร์ให้มีอากาศถ่ายเทดีด้วย
การใช้ไฟฟ้าในโรงงานแม้จะมีการใช้กระแสไฟมาก แต่ถ้าทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าอยู่เป็นประจำ สม่ำเสมอ พร้อมเลือกอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานก็จะสามารถช่วยประหยัดไฟและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
ที่มา : Industrypro
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับคุกกี้ทั้งหมดประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใดๆ ของผู้ใช้งาน