SHARES
อาหารยังมีวันหมดอายุ สายไฟก็เช่นกัน วันนี้ทางเซฟไทยอยากชวนทุกคนมาเช็กว่าสายไฟหมดอายุแล้วหรือยัง เพราะเมื่อมีการใช้งานอยู่ตลอดเวลาคงเป็นไปได้ยากที่สายไฟจะอยู่ในสภาพเดิม ว่าแต่ต้องเสื่อมสภาพแค่ไหนล่ะ? ถึงจะเรียกว่าสายไฟหมดอายุ ควรเปลี่ยนใหม่ได้แล้ว หากปล่อยไว้แล้วใช้ต่อไปเรื่อย ๆ อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ ตามไปดูคำตอบกันได้เลย
สายไฟโดยทั่วไปมักมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 15-20 ปี ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของสายไฟด้วย เช่น หากมีฉนวนสายไฟที่ทำจากพลาสติก PVC อาจจะเสื่อมสภาพได้ง่าย เพราะมีตัวกระตุ้นตามสภาพแวดล้อมทั้งความร้อนและความชื้น รวมไปถึงการเดินสายไฟแบบร้อยท่อจะช่วยให้ยืดอายุสายไฟให้ใช้งานนานขึ้นถึง 30 ปีเลยทีเดียว
แม้ว่าวัสดุหรือการเดินสายไฟจะทำไว้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้ามีการใช้งานที่หนัก สภาพแวดล้อมโดนทั้งแดด รังสียูวี ฝนอยู่บ่อย ๆ สายไฟหมดอายุก็อาจเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นเป็น 10 ปีได้ เพราะฉะนั้นจึงควรตรวจสอบคุณภาพสายไฟเป็นประจำ หากเกิดเสียหาย ชำรุด จะได้แก้ไขอย่างทันเวลา
หลายคนอาจจะคิดว่าการเช็กคุณภาพสายไฟเป็นเรื่องเทคนิคเฉพาะทาง แต่เบื้องต้นเราสามารถสังเกตด้วยวิธีง่าย ๆ ด้วยตนเองได้โดยดูว่าสายไฟมีลักษณะเปื่อย ฉีกขาด แห้งกรอบ รอยแตกร้าว รอยไหม้ หรือร่องรอยอื่น ๆ ที่แสดงถึงความไม่สมบูรณ์หรือไม่ โดยเฉพาะถ้าพบว่าสายไฟชำรุดจนเห็นถึงลวดทองแดงด้านใน แนะนำให้เปลี่ยนใหม่หรือปรึกษาช่างไฟชำนาญการมาแก้ไข ไม่ควรใช้ต่อหรือปล่อยเอาไว้นาน ส่วนถ้าเป็นสายไฟแบบร้อยสายผ่านท่อ อาจต้องพึ่งช่างไฟชำนาญมาตรวจสอบแก้ไขให้
จะเช็กว่าสายไฟหมดอายุจนถึงเวลาเปลี่ยนแล้วหรือยัง นอกจากจะดูที่ลักษณะของสายไฟแล้ว ยังควรเช็กอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับสายไฟด้วย เช่น เต้ารับ สวิตช์ไฟ และมิเตอร์ไฟฟ้า
นอกจากอายุการใช้งานของสายไฟตามปกติแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้สายไฟหมดอายุได้อีก ไม่ว่าจะเป็น
ใช้เทปพันสายไฟหมดอายุ เพราะการใช้เทปพันสายไฟไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการแก้ไขสายไฟหมดอายุ อาจเสี่ยงอันตรายทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟช็อตได้ นอกจากนี้เทปพันสายไฟยังเสื่อมสภาพได้ง่ายอีกด้วย
หากพบว่าสายไฟหมดอายุแล้วควรทำการเปลี่ยนใหม่ ข้อควรรู้ต่อไปนี้คือสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน
การตรวจสอบสายไฟหมดอายุเป็นประจำมีความสำคัญ หากชำรุดเสียหายก็ทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย นอกจากนี้ยังควรหมั่นตรวจสอบสายไฟและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทุก 1-2 ปี อย่างน้อย 1 ครั้ง หรือปรึกษาช่างไฟเพื่อดูแลอย่างเหมาะสม ป้องกันการเกิดปัญหาไฟฟ้าภายหลังได้
ที่มา : homeguru.homepro
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับคุกกี้ทั้งหมดประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใดๆ ของผู้ใช้งาน